รายงานวิชาการ
เรื่อง กระดาษจากผักตบชวา
จัดทำโดย
นางสาว บุษมาลี หมัดเจริญ เลขที่32
นางสาว ณัฐนันท์ ภิรมย์กาญจน์ เลขที่38
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่5/8
นำเสนอ
อาจารย์ บุญเลิศ แก้วคุ้มภัย
รายงานวิชาการเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา I 30202
การสื่อสารและการนำเสนอ ( Communication and
Presentation )
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556
โรงเรียนหาดใหญ่รัฐประชาสรรค์
อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
บทคัดย่อ
การสื่อสารและการนำเสนอ
เรื่อง กระดาษจากผักตบชวา มีจุดมุ่งหมายในการศึกษาในการศึกษาค้นคว้า
ดังนี้ เพื่อหาสูตรที่เหมาะสมสำหรับการทำกระดาษจากผักตบชวาจากเส้นใยผักตบชวา เพื่อเปรียบเทียบเนื้อกระดาษจากเส้นใยผักตบชวากับเนื้อกระดาษทั่วไป
จากการทดลองและประดิษฐ์กระดาษและการเปรียบเทียบเนื้อกระดาษเส้นใยจากผักตบชวากับกระดาษชนิดต่างๆเช่นกระดาษสา โดยการทำแบบสอบถามขั้นตอนการประดิษฐ์ก็มี
นำผกตบชวามาบดให้ละเอียด
นำมาผสมกับสารที่เตรียมไว้ แล้วนำไปต้ม ประมาณ 30 นาที ใส่สารที่เตรียมไว้แล้วนำไปฟอกเยื่อ ประมาณ 10 นาที ต่อจากนั้นนำไปตากจนแห้ง นำไปเปรียบกับกระดาษที่จะทดลองต่อไป
การดำเนินงานศึกษาค้นคว้าและเรียบเรียงเรื่อง กระดาษจากผักตบชวา มีขั้นตอนดังนี้ 1.กำหนดชื่อเรื่องและขอบเขตของเรื่อง 2.กำหนดจุดมุ่งหมายในการศึกษาค้นคว้า 3.เขียนโครงเรื่อง 4.รวบรวมข้อมูล 5.จัดระเบียบและวิเคราะห์ข้อมูล 6.จำทำฉบับร่าง 7.ตรวจทานและแก้ไข 8.จัดทำฉบับจริง
กิตติกรรมประกาศ
การเขียนรายงานเชิงวิชาการเรื่อง กระดาษจากผักตบชวา
ฉบับนี้สำเร็จลงด้วยดีคณะผู้จัดทำขอขอบพระคุณที่ปรึกษา อาจารย์
บุญเลิศ แก้วคุ้มภัย อาจารย์โรงเรียนและบุคลากรโรงเรียนหาดใหญ่- รัฐประชาสรรค์ ทุกท่านที่ได้ให้คำปรึกษา แนะแนวทางในการเขียนรายงานเชิงวิชาการครั้งนี้
ขอขอบพระคุณบิดา-มารดา ญาติพี่น้อง
และเพื่อนๆทุกคนที่คอยให้กำลังใจและคำปรึกษาที่ดีตลอดมาหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายงานเชิงวิชาการเรื่อง กระดาษจากผักตบชวา
ฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ในชีวิตประจำวันต่อไป
ที่มาและความสำคัญ
ผักตบชวา (Water
Hyacinth) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Eichhornai
crassipes (Mart)
เป็นพืชน้ำมีลักษณะใบประเภทใบเลี้ยงเดี่ยว ใบแผ่นกว้างมนโค้งก้านใบยาว อวบน้ำ ดอกลักษณะเป็นช่อ ดอกสีม่วง ลอยน้ำได้
เจริญเติบโตง่ายทั้งในน้ำตื่น น้ำขัง หรือมีการถ่ายเทได้
และมีชื่อเรียกในแต่ละท้องถิ่นแตกต่างกัน เช่นผักปอด ,สระ ,ผักโรค, ผักยะวา ,ผักอีโยก
เป็นต้น จากคุณสมบัติที่เป็นพืชที่มีเส้นใยเหนียวมาก เมื่อนำมาทำให้แห้งจึงได้มีการนำมาทำเป็นเครื่องหัตถกรรม เช่น กระเป๋า หมวก เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีผู้นำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงหมัก อีกด้วย ถึงแม้จะมีการนำมาใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ แล้ว ผักตบชวาก็ยังคงเป็นปัญหาด้านมลภาวะอยู่ดี
จากการที่กลุ่มของดิฉันสังเกตุผักตบชวาตามคลอง ตามบึง หลังบ้าน ผักตบชวาจะเป็นพืชที่มีเส้นใยเหนียวมาก กลุ่มของดิฉันจึงเกิดไอเดียความคิดในการนำเส้นใยของผักตบชวามาทำเป็นกระดาษ การย่อยเยื่อทำได้ 2 วิธี คือ การนำผักตบชวามาทุบและการนำไปตีเยื่อ วิธีการทุบเนื้อเยื่อจะทำให้มีเยื่อที่มีเส้นใยยาวกว่าการตีปั่นเยื่อ เมื่อนำเยื่อที่ได้มาตักเยื่อเพื่อทำเป็นแผ่นกระดาษทำการปรับปรุงคุณภาพโดยการย้อมสี และผสมน้ำแป้ง ทดสอบคุณภาพของเนื้อกระดษาของกระดาษที่ได้กับกระดาษสาที่ขายตามท้องตลาดทั่วไปว่าคุณภาพจะแตกต่างมากเพียงใด
จุดมุ่งหมายการศึกษา
1.เพื่อหาสูตรที่เหมาะสมสำหรับกระดาษจากเส้นใยผักตบชวา
2.เพื่อเปรียบเทียบเนื้อกระดาษจากเส้นใยจากผักตบชวากันเนื้อกระดาษอื่นๆ
3.ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
สมมติฐาน
1.การนำเส้นใยผักตบชวามาทำเป็นกระดาษได้เหมือนเส้นใยของกล้วยที่นำมาทำกระดาษ
2.การนำกระดาษจากผักตบชวาไปใช้ประโยชน์ได้ดีอย่างกระดาษทั่วๆไป
ตัวแปรที่ปรึกษา
ตัวแปร คือ การนำเส้นใยผักตบชวาทำเป็นกระดาษ
ตัวแปนตาม คือ คุณภาพเนื้อกระดาษที่ทำจากผักตบชวา
ตัวแปรควบคุม คือ ปริมาตรของสาร
เอกสารและงานที่เกี่ยวข้อง
การศึกษาครั้งนี้
ได้ศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
โดยแบ่งเนื้อหาของเอกสารวิจัยในหัวข้อต่างๆ ดังนี้
1.บำบัดน้ำเสียด้วยผักตบชวา
2.ศิลปหัตถกรรม
3.ขั้นตอนการทำกระดาษ
บำบัดน้ำเสียด้วยผักตบชวา
การบำบัดน้ำเสียด้วยผักตบชวา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสนพระราชหฤทัยในการปรับปรุงคุณภาพของแหล่งน้ำที่มีอยู่แล้ว
เช่น บึงและหนองต่างๆ เพื่อทำเป็นแหล่งบำบัดน้ำเสีย โดยหนึ่งในจำนวนนั้นได้แก่ โครงการบึงมักกะสันอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
มีหลักการบำบัดน้ำเสียตามแนวทฤษฎีการพัฒนาโดยการกรองน้ำเสียด้วยผักตบชวา
(Filtration)
โครงการบึงมักกะสัน บึงมักกะสัน เป็นบึงขนาดใหญ่ที่อยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร
รวมพื้นที่บึงประมาณ ๙๒ ไร่ เป็นแหล่งน้ำอยู่ในเขตโรงงานรถไฟมักกะสันของการรถไฟแห่งประเทศไทย
ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ขุดขึ้น ในปี พ.ศ. ๒๔๗๔ เพื่อใช้เป็นแหล่งระบายน้ำและรองรับน้ำเสีย
รวมทั้งน้ำมันเครื่องจากโรงงานรถไฟมักกะสัน ทำให้บึงมักกะสันตื้นเขิน จากการตกตะกอนของสารแขวนลอย
ศิลปหัตถกรรม
คุณพิมพ์แก้ว
กิติรันต์ธนโชติ เจ้าของผลิตภัณฑ์จากผักตบชวาไม้ตรา อำเภอบางไทร จังหวัดอยุธยา
เท้าความที่มาของงานศิลป์ชนิดนี้ว่า เมื่อก่อนเคยทำงานอยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมผลิตเฟอร์นิเจอร์หวาย
ต่อมาราวปี 2540 เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ โรงงานจำต้องปิดตัวลง
และผลพลอยได้จากการว่างงานครั้งนี้ คือ ได้เห็นผักตบชวาลอยเกลื่อนในแม่น้ำเจ้าพระยาทุกวัน
เลยค้นหาวิธีใช้ประโยชน์จากพืชชนิดนี้
ขั้นตอนการทำกระดาษ
การทำกระดาษด้วยมือส่วนใหญ่ในปัจจุบันเป็นการทำกระดาษเพื่อใช้ในงานหัตถกรรม
ซึ่งมีวัตถุดิบจากพืชหลายชนิด แต่ก่อนกระดาษจะทำจากเปลือกไม้ที่มีอยู่ในท้องถิ่น
เช่นถ้าใช้เปลือกข่อยก็จะเรียกสมุดข่อย ใช้เปลือกสาก็จะเรียกสมุดปอสา
พืชทั้งหลายที่เป็นผักและผลไม้เมื่อนำไปบริโภคแล้ว
ยังมีส่วนที่ยังตกค้างอยู่ในแปลงปลูกที่ยังไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์
นอกการจากการเผาทำลายทิ้งทำให้เกิดมลพิษทางอากาศ และส่งเสริมให้เกิดภาวะโลกร้อน
จึงขอแนะนำวิธีการทำกระดาษจากเศษเหลือทางการเกษตร ตัวอย่างเช่น ใบและกาบกล้วย ใบสับปะรด ฟางข้าว ผักตบชวา ปอสา เป็นต้น
นอกจากพืชที่กล่าวมาแล้วยังมีพืชอีกหลายชนิดที่สามารถนำมาทำกระดาษได้
1.การเตรียมวัตถุดิบ
2.การล้างเยื่อ
3.การฟอกเยื่อ
4.การกระจายเยื่อ (ตีเยื่อ)
5.การทำแผ่นกระดาษ
วิธีการทำกระดาษ
1. เตรียมผักตบชวา
2. นำผักตบชวาไปหั่นเป็นชิ้นยาวประมาณ 1 นิ้ว นำไปใส่
ภาชนะที่ใช้ต้ม ใส่ผักตบชวาหั่น 2 กิโลกรัม เติมน้ำประมาณ
7
ลิตร
3. ใส่โซดาไฟ
4. นำไปต้มประมาณ 2 ชั่วโมง จะเห็นได้ว่าผักตบชวาที่ต้ม
แล้วจะยุ่ย
5. แล้วนำมาล้างออกด้วยน้ำสะอาด 2-3 ครั้ง
6. นำมาฟอกขาวด้วยไอโดเจนเปอร์ออกไซด์ ที่ผสมสบู่ โซเดรียมซิลิเกต
ต้มนานประมาณ 1/2 ชั่วโมง จึงนำมา ล้าง
ออก
7. นำมาย้อมด้วยสีย้อมผ้า ต้มนานประมาณ 1/2 ชั่วโมง นำมาล้างออก
8. เตรียมอ่างที่จะใช้เตะกระดาษนำเฟรมรองไว้ใต้อ่าง ใส่น้ำให้ท่วมขอบเฟรม เทผักตบชวาที่ปั่นแล้วลงในอ่าง
9. ใช้มือตีปุยของผักตบชวาให้กระจายๆ ให้ทั่วเฟรม
แล้วค่อยๆ ยกเฟรมที่อยู่ข้างล่างขึ้นทีละข้างให้ปุย ผักตบชวาไล่
ระดับให้เต็มเฟรม
10. ยกขั้นตากแดด
วิธีดำเนินการศึกษา
ระเบียบที่ใช้ในการศึกษา
ในการศึกษาใช้รูปแบบการสำรวจ สืบค้นข้อมูล
จากหนังสือ อินเตอร์เน็ต และการประดิษฐ์
ผู้ศึกษาได้ดำเนินขั้นตอนดังนี้
1.กำหนดเรื่องที่จะศึกษาโดยสมาชิกทั้ง
2 คนประชุมร่วมกัน
และร่วมกันคิดและวางแผนว่าจะศึกษาเรื่องใด
2.สำรวจประเด็จที่จะจัดทำโดยเลือกเรื่องที่สมาชิกในกลุ่มสนใจ เพื่อเป็นแรงจูงใจในการทำงาน
3.ตั้งชื่อเรื่อง
4.สมาชิกทั้ง 2 คนในกลุ่ม
พบอาจารย์สอนเพื่อปรึกษา วางแผน และรับฟังความคิดเห็น ปรับปรุงแก้ไข
5.เขียนความสำคัญ
ความเป็นมาของเรื่องที่จะทำ วัตถุประสงค์ สมมติฐาน
ของเขตการวิจัยและประโยชน์ที่คาดว่าจะได้
รับ
โดยศึกษาข้อมูลจากหนังสือ
วิทยานิพนธ์และสืบค้นข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต และจดบันทึกในโครงร่างรายงาน
วิชาการ
6.สร้างเครื่องมือที่เป็นแบบสอบถาม
7.นำเครื่องมือที่ปรับปรุงแล้วไปใช้กับกลุ่มตัวอย่าง
8.รวบรวมข้อมูล
9.วิเคราะห์ข้อมูล
10.สรุปการศึกษา
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา
เครื่องมือใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือคือ แบบสอบถามความคิดเห็น 1 ฉบับ มี 2 ตัวเลือกคือ เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย
ผลการวิเคราะห์
สรุปแบบสอบถาม
ความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างบุคลากรและนักเรียนโรงเรียนหาดใหญ่รัฐประชาสรรค์
อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
สรุปได้ดังนี้
-เพศชาย =50% , เพศหญิง=
50%
-ช่วงอายุ13-16= 35% , อายุ 17-20=50% , อายุมากกว่า
20=15%
-ระดับการศึกษาระดับมัธยมต้น= 25% , ระดับมัธยมปลาย=45% , ระดับปริญญาตรี=20% ,ระดับปริญญาตรีขึ้น
ไป=10%
-เคยใช้กระดาษสา= 70% , เคยใช้กระดาษกล้วย
=15% , เคยใช้กระดาษหนังช้าง=15%
-นำกระดาษไปใช้ประโยชน์เป็นกล่องของขวัญ=25% , ทำกรอบรูป = 35% , ทำอื่นๆ= 40%
และสามารถสรุปความคิดเห็นได้ดังตาราง
สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ
จากการศึกษาครั้งนี้ สามารถสรุปผล
อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ได้ดังนี้
สรุปผลการศึกษา
ผลการศึกษาแบบสอบถามความคิดเห็นของบุคลากรและนักเรียนโรงเรียนหาดใหญ่รัฐประชาสรรค์ อำเภอหาดใหญ่
จังหวัดสงขลา
ในการเปรียบเทียบกระดาษผักตบชวากับกระดาษสา ส่วนใหญ่ร้อยละ 53.5 เห็นด้วย และร้อยละ 46.5 ไม่เห็นด้วย
อภิปรายผล
จากการศึกษาพบว่า(ความคิดเห็น)
ในการเปรียบเทียบกระดาษผักตบชวากับกระดาษสาอยู่ในระดับเห็นด้วย คิดเป็นร้อยละ 53.3
ข้อเสนอแนะ
ข้อเสนอแนะจากการศึกษาครั้งนี้
1.สามารถนำไปศึกษากับกลุ่มตัวอย่างอื่นได้
2.ควรมีช่วงเวลาในการศึกษามากขึ้น
3.ควรมีการต่อยอดในส่วนมี่ได้ศึกษาค้นคว้ามาเพื่อใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ
4.ควรที่จะนำองค์ความรู้ที่ได้ศึกษามาไปประกอบเป็นอาชีพเสริม
5.ในขั้นตอนการทำกระดาษสามารถประยุกต์ใช้
เช่นการนำกระดาษเหลือ
ใช้ไปผสมกันแล้วนำมารีไซเคิลกระดาษใหม่ได้
6.ควรมีการประดิษฐ์กระดาษในรูปแบบสีสันแตกต่างกันออกไปเพื่อความหลากหลายในชิ้นงาน
ผู้จัดทำ
นางสาว บุษมาลี หมัดเจริญ เลขที่32
นางสาว ณัฐนันท์ ภิรมย์กาญจน์ เลขที่38
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่5/8
โรงเรียนหาดใหญ่รัฐประชาสรรค์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา