วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

รายงานเชิงวิชาการ กระดาษจากผักตบชวา

รายงานวิชาการ
เรื่อง     กระดาษจากผักตบชวา

จัดทำโดย

นางสาว  บุษมาลี         หมัดเจริญ        เลขที่32
นางสาว  ณัฐนันท์       ภิรมย์กาญจน์   เลขที่38
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่5/8

นำเสนอ
อาจารย์  บุญเลิศ          แก้วคุ้มภัย

รายงานวิชาการเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา I 30202
การสื่อสารและการนำเสนอ ( Communication  and  Presentation )
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา  2556

โรงเรียนหาดใหญ่รัฐประชาสรรค์   อำเภอหาดใหญ่   จังหวัดสงขลา


บทคัดย่อ

การสื่อสารและการนำเสนอ เรื่อง  กระดาษจากผักตบชวา มีจุดมุ่งหมายในการศึกษาในการศึกษาค้นคว้า ดังนี้ เพื่อหาสูตรที่เหมาะสมสำหรับการทำกระดาษจากผักตบชวาจากเส้นใยผักตบชวา  เพื่อเปรียบเทียบเนื้อกระดาษจากเส้นใยผักตบชวากับเนื้อกระดาษทั่วไป
จากการทดลองและประดิษฐ์กระดาษและการเปรียบเทียบเนื้อกระดาษเส้นใยจากผักตบชวากับกระดาษชนิดต่างๆเช่นกระดาษสา  โดยการทำแบบสอบถามขั้นตอนการประดิษฐ์ก็มี
นำผกตบชวามาบดให้ละเอียด นำมาผสมกับสารที่เตรียมไว้ แล้วนำไปต้ม ประมาณ 30 นาที ใส่สารที่เตรียมไว้แล้วนำไปฟอกเยื่อ ประมาณ 10 นาที ต่อจากนั้นนำไปตากจนแห้ง นำไปเปรียบกับกระดาษที่จะทดลองต่อไป
                การดำเนินงานศึกษาค้นคว้าและเรียบเรียงเรื่อง  กระดาษจากผักตบชวา  มีขั้นตอนดังนี้ 1.กำหนดชื่อเรื่องและขอบเขตของเรื่อง  2.กำหนดจุดมุ่งหมายในการศึกษาค้นคว้า  3.เขียนโครงเรื่อง  4.รวบรวมข้อมูล  5.จัดระเบียบและวิเคราะห์ข้อมูล  6.จำทำฉบับร่าง  7.ตรวจทานและแก้ไข  8.จัดทำฉบับจริง


กิตติกรรมประกาศ

การเขียนรายงานเชิงวิชาการเรื่อง กระดาษจากผักตบชวา  ฉบับนี้สำเร็จลงด้วยดีคณะผู้จัดทำขอขอบพระคุณที่ปรึกษา  อาจารย์  บุญเลิศ  แก้วคุ้มภัย  อาจารย์โรงเรียนและบุคลากรโรงเรียนหาดใหญ่-                  รัฐประชาสรรค์  ทุกท่านที่ได้ให้คำปรึกษา  แนะแนวทางในการเขียนรายงานเชิงวิชาการครั้งนี้
ขอขอบพระคุณบิดา-มารดา  ญาติพี่น้อง  และเพื่อนๆทุกคนที่คอยให้กำลังใจและคำปรึกษาที่ดีตลอดมาหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายงานเชิงวิชาการเรื่อง  กระดาษจากผักตบชวา ฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ในชีวิตประจำวันต่อไป


ที่มาและความสำคัญ

                              ผักตบชวา (Water   Hyacinth) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Eichhornai crassipes (Mart) เป็นพืชน้ำมีลักษณะใบประเภทใบเลี้ยงเดี่ยว ใบแผ่นกว้างมนโค้งก้านใบยาว อวบน้ำ  ดอกลักษณะเป็นช่อ ดอกสีม่วง ลอยน้ำได้ เจริญเติบโตง่ายทั้งในน้ำตื่น  น้ำขัง  หรือมีการถ่ายเทได้ และมีชื่อเรียกในแต่ละท้องถิ่นแตกต่างกัน เช่นผักปอด ,สระ ,ผักโรค, ผักยะวา ,ผักอีโยก เป็นต้น จากคุณสมบัติที่เป็นพืชที่มีเส้นใยเหนียวมาก  เมื่อนำมาทำให้แห้งจึงได้มีการนำมาทำเป็นเครื่องหัตถกรรม เช่น กระเป๋า หมวก เป็นต้น  นอกจากนี้ยังมีผู้นำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงหมัก อีกด้วย  ถึงแม้จะมีการนำมาใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ แล้ว  ผักตบชวาก็ยังคงเป็นปัญหาด้านมลภาวะอยู่ดี
                               จากการที่กลุ่มของดิฉันสังเกตุผักตบชวาตามคลอง  ตามบึง  หลังบ้าน ผักตบชวาจะเป็นพืชที่มีเส้นใยเหนียวมาก  กลุ่มของดิฉันจึงเกิดไอเดียความคิดในการนำเส้นใยของผักตบชวามาทำเป็นกระดาษ  การย่อยเยื่อทำได้ 2 วิธี  คือ  การนำผักตบชวามาทุบและการนำไปตีเยื่อ  วิธีการทุบเนื้อเยื่อจะทำให้มีเยื่อที่มีเส้นใยยาวกว่าการตีปั่นเยื่อ  เมื่อนำเยื่อที่ได้มาตักเยื่อเพื่อทำเป็นแผ่นกระดาษทำการปรับปรุงคุณภาพโดยการย้อมสี และผสมน้ำแป้ง  ทดสอบคุณภาพของเนื้อกระดษาของกระดาษที่ได้กับกระดาษสาที่ขายตามท้องตลาดทั่วไปว่าคุณภาพจะแตกต่างมากเพียงใด

                                                                                                                                                                                          
จุดมุ่งหมายการศึกษา

1.เพื่อหาสูตรที่เหมาะสมสำหรับกระดาษจากเส้นใยผักตบชวา
2.เพื่อเปรียบเทียบเนื้อกระดาษจากเส้นใยจากผักตบชวากันเนื้อกระดาษอื่นๆ
3.ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์


สมมติฐาน

1.การนำเส้นใยผักตบชวามาทำเป็นกระดาษได้เหมือนเส้นใยของกล้วยที่นำมาทำกระดาษ
2.การนำกระดาษจากผักตบชวาไปใช้ประโยชน์ได้ดีอย่างกระดาษทั่วๆไป 


ตัวแปรที่ปรึกษา

ตัวแปร  คือ   การนำเส้นใยผักตบชวาทำเป็นกระดาษ
ตัวแปนตาม   คือ  คุณภาพเนื้อกระดาษที่ทำจากผักตบชวา
ตัวแปรควบคุม  คือ  ปริมาตรของสาร


เอกสารและงานที่เกี่ยวข้อง

            การศึกษาครั้งนี้   ได้ศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง โดยแบ่งเนื้อหาของเอกสารวิจัยในหัวข้อต่างๆ  ดังนี้
1.บำบัดน้ำเสียด้วยผักตบชวา
2.ศิลปหัตถกรรม
3.ขั้นตอนการทำกระดาษ

บำบัดน้ำเสียด้วยผักตบชวา
     การบำบัดน้ำเสียด้วยผักตบชวา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสนพระราชหฤทัยในการปรับปรุงคุณภาพของแหล่งน้ำที่มีอยู่แล้ว เช่น บึงและหนองต่างๆ เพื่อทำเป็นแหล่งบำบัดน้ำเสีย โดยหนึ่งในจำนวนนั้นได้แก่ โครงการบึงมักกะสันอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีหลักการบำบัดน้ำเสียตามแนวทฤษฎีการพัฒนาโดยการกรองน้ำเสียด้วยผักตบชวา (Filtration) 
     โครงการบึงมักกะสัน บึงมักกะสัน เป็นบึงขนาดใหญ่ที่อยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร รวมพื้นที่บึงประมาณ ๙๒ ไร่ เป็นแหล่งน้ำอยู่ในเขตโรงงานรถไฟมักกะสันของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ขุดขึ้น ในปี พ.ศ. ๒๔๗๔ เพื่อใช้เป็นแหล่งระบายน้ำและรองรับน้ำเสีย รวมทั้งน้ำมันเครื่องจากโรงงานรถไฟมักกะสัน ทำให้บึงมักกะสันตื้นเขิน จากการตกตะกอนของสารแขวนลอย

ศิลปหัตถกรรม  
 คุณพิมพ์แก้ว กิติรันต์ธนโชติ เจ้าของผลิตภัณฑ์จากผักตบชวาไม้ตรา อำเภอบางไทร จังหวัดอยุธยา เท้าความที่มาของงานศิลป์ชนิดนี้ว่า เมื่อก่อนเคยทำงานอยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมผลิตเฟอร์นิเจอร์หวาย ต่อมาราวปี 2540 เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ โรงงานจำต้องปิดตัวลง และผลพลอยได้จากการว่างงานครั้งนี้ คือ ได้เห็นผักตบชวาลอยเกลื่อนในแม่น้ำเจ้าพระยาทุกวัน เลยค้นหาวิธีใช้ประโยชน์จากพืชชนิดนี้


ขั้นตอนการทำกระดาษ
          การทำกระดาษด้วยมือส่วนใหญ่ในปัจจุบันเป็นการทำกระดาษเพื่อใช้ในงานหัตถกรรม ซึ่งมีวัตถุดิบจากพืชหลายชนิด แต่ก่อนกระดาษจะทำจากเปลือกไม้ที่มีอยู่ในท้องถิ่น เช่นถ้าใช้เปลือกข่อยก็จะเรียกสมุดข่อย ใช้เปลือกสาก็จะเรียกสมุดปอสา พืชทั้งหลายที่เป็นผักและผลไม้เมื่อนำไปบริโภคแล้ว ยังมีส่วนที่ยังตกค้างอยู่ในแปลงปลูกที่ยังไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์ นอกการจากการเผาทำลายทิ้งทำให้เกิดมลพิษทางอากาศ และส่งเสริมให้เกิดภาวะโลกร้อน จึงขอแนะนำวิธีการทำกระดาษจากเศษเหลือทางการเกษตร ตัวอย่างเช่น ใบและกาบกล้วย ใบสับปะรด ฟางข้าว ผักตบชวา ปอสา เป็นต้น นอกจากพืชที่กล่าวมาแล้วยังมีพืชอีกหลายชนิดที่สามารถนำมาทำกระดาษได้ 

1.การเตรียมวัตถุดิบ
2.การล้างเยื่อ
3.การฟอกเยื่อ
4.การกระจายเยื่อ (ตีเยื่อ)
 5.การทำแผ่นกระดาษ

วิธีการทำกระดาษ

1. เตรียมผักตบชวา
2. นำผักตบชวาไปหั่นเป็นชิ้นยาวประมาณ 1 นิ้ว นำไปใส่ ภาชนะที่ใช้ต้ม ใส่ผักตบชวาหั่น 2 กิโลกรัม เติมน้ำประมาณ 
    7 ลิตร
 3. ใส่โซดาไฟ
 4. นำไปต้มประมาณ 2 ชั่วโมง จะเห็นได้ว่าผักตบชวาที่ต้ม แล้วจะยุ่ย
 5. แล้วนำมาล้างออกด้วยน้ำสะอาด 2-3 ครั้ง
6. นำมาฟอกขาวด้วยไอโดเจนเปอร์ออกไซด์ ที่ผสมสบู่ โซเดรียมซิลิเกต ต้มนานประมาณ 1/2 ชั่วโมง จึงนำมา ล้าง
    ออก
7.  นำมาย้อมด้วยสีย้อมผ้า ต้มนานประมาณ 1/2 ชั่วโมง นำมาล้างออก
8.  เตรียมอ่างที่จะใช้เตะกระดาษนำเฟรมรองไว้ใต้อ่าง  ใส่น้ำให้ท่วมขอบเฟรม เทผักตบชวาที่ปั่นแล้วลงในอ่าง
9.  ใช้มือตีปุยของผักตบชวาให้กระจายๆ ให้ทั่วเฟรม แล้วค่อยๆ ยกเฟรมที่อยู่ข้างล่างขึ้นทีละข้างให้ปุย ผักตบชวาไล่ 
      ระดับให้เต็มเฟรม
10. ยกขั้นตากแดด


วิธีดำเนินการศึกษา

ระเบียบที่ใช้ในการศึกษา
                ในการศึกษาใช้รูปแบบการสำรวจ  สืบค้นข้อมูล  จากหนังสือ  อินเตอร์เน็ต และการประดิษฐ์
ผู้ศึกษาได้ดำเนินขั้นตอนดังนี้

1.กำหนดเรื่องที่จะศึกษาโดยสมาชิกทั้ง 2 คนประชุมร่วมกัน  และร่วมกันคิดและวางแผนว่าจะศึกษาเรื่องใด
2.สำรวจประเด็จที่จะจัดทำโดยเลือกเรื่องที่สมาชิกในกลุ่มสนใจ  เพื่อเป็นแรงจูงใจในการทำงาน
3.ตั้งชื่อเรื่อง
4.สมาชิกทั้ง 2 คนในกลุ่ม พบอาจารย์สอนเพื่อปรึกษา วางแผน และรับฟังความคิดเห็น ปรับปรุงแก้ไข
5.เขียนความสำคัญ ความเป็นมาของเรื่องที่จะทำ  วัตถุประสงค์  สมมติฐาน ของเขตการวิจัยและประโยชน์ที่คาดว่าจะได้
    รับ  โดยศึกษาข้อมูลจากหนังสือ  วิทยานิพนธ์และสืบค้นข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต  และจดบันทึกในโครงร่างรายงาน
     วิชาการ
6.สร้างเครื่องมือที่เป็นแบบสอบถาม
7.นำเครื่องมือที่ปรับปรุงแล้วไปใช้กับกลุ่มตัวอย่าง
8.รวบรวมข้อมูล
9.วิเคราะห์ข้อมูล
10.สรุปการศึกษา
                                                                          เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา
เครื่องมือใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือคือ  แบบสอบถามความคิดเห็น 1 ฉบับ มี 2 ตัวเลือกคือ เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย


ผลการวิเคราะห์

สรุปแบบสอบถาม
               ความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างบุคลากรและนักเรียนโรงเรียนหาดใหญ่รัฐประชาสรรค์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

สรุปได้ดังนี้
      -เพศชาย =50%  , เพศหญิง= 50%
      -ช่วงอายุ13-16= 35% , อายุ   17-20=50% , อายุมากกว่า 20=15%
      -ระดับการศึกษาระดับมัธยมต้น= 25% , ระดับมัธยมปลาย=45% , ระดับปริญญาตรี=20% ,ระดับปริญญาตรีขึ้น
        ไป=10%
      -เคยใช้กระดาษสา= 70% , เคยใช้กระดาษกล้วย =15% , เคยใช้กระดาษหนังช้าง=15%
      -นำกระดาษไปใช้ประโยชน์เป็นกล่องของขวัญ=25% , ทำกรอบรูป = 35% , ทำอื่นๆ= 40%
        และสามารถสรุปความคิดเห็นได้ดังตาราง


สรุป  อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ

                จากการศึกษาครั้งนี้  สามารถสรุปผล  อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ได้ดังนี้

สรุปผลการศึกษา
                ผลการศึกษาแบบสอบถามความคิดเห็นของบุคลากรและนักเรียนโรงเรียนหาดใหญ่รัฐประชาสรรค์  อำเภอหาดใหญ่  จังหวัดสงขลา  ในการเปรียบเทียบกระดาษผักตบชวากับกระดาษสา ส่วนใหญ่ร้อยละ 53.5 เห็นด้วย  และร้อยละ 46.5  ไม่เห็นด้วย

อภิปรายผล
จากการศึกษาพบว่า(ความคิดเห็น) ในการเปรียบเทียบกระดาษผักตบชวากับกระดาษสาอยู่ในระดับเห็นด้วย  คิดเป็นร้อยละ 53.3

ข้อเสนอแนะ
ข้อเสนอแนะจากการศึกษาครั้งนี้
1.สามารถนำไปศึกษากับกลุ่มตัวอย่างอื่นได้
2.ควรมีช่วงเวลาในการศึกษามากขึ้น
3.ควรมีการต่อยอดในส่วนมี่ได้ศึกษาค้นคว้ามาเพื่อใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ
4.ควรที่จะนำองค์ความรู้ที่ได้ศึกษามาไปประกอบเป็นอาชีพเสริม
5.ในขั้นตอนการทำกระดาษสามารถประยุกต์ใช้ เช่นการนำกระดาษเหลือ
ใช้ไปผสมกันแล้วนำมารีไซเคิลกระดาษใหม่ได้
6.ควรมีการประดิษฐ์กระดาษในรูปแบบสีสันแตกต่างกันออกไปเพื่อความหลากหลายในชิ้นงาน

ผู้จัดทำ



นางสาว  บุษมาลี         หมัดเจริญ        เลขที่32
นางสาว  ณัฐนันท์       ภิรมย์กาญจน์   เลขที่38
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่5/8
โรงเรียนหาดใหญ่รัฐประชาสรรค์   อำเภอหาดใหญ่   จังหวัดสงขลา